วิธีเลือกและดูแลยางรถไฟฟ้า (EV) จาก BRIDGESTONE

ให้ทุกการเดินทางของคุณเต็มไปด้วยความรื่นรมย์ ด้วยยางที่ช่วยลดเสียงรบกวนในขณะขับขี่ เหมาะสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ไร้เสียงเครื่องยนต์

แชร์

วิธีเลือกและดูแลยางรถไฟฟ้า (EV) จาก BRIDGESTONE

รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (EV - Electric Vehicles) คืออนาคตแห่งการขับขี่ เพราะเป็นนวัตกรรมที่พัฒนาเพื่อเป็นรถยนต์ทางเลือก ที่สามารถลดค่าใช้จ่าย ลดการใช้พลังงาน รวมถึงลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในยุคนี้การเลือกใช้รถยนต์ EV เป็นยานพาหนะ จึงเติมเต็มความสมบูรณ์แบบในการเดินทางได้อย่างครบทุกมิติ

คุณสมบัติที่ดีของยางรถไฟฟ้า

ด้วยนวัตกรรมเเละเทคโนโลยีที่ถูกดัดเเปลงมาเพื่อสร้างยานพาหนะที่ใช้ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนแทนการใช้เครื่องยนต์ที่มีการเผาไหม้แบบสันดาป โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อประหยัดพลังงาน เป็นมิตรต่อสิ่งเเวดล้อมเเละตอบสนองสุนทรียภาพในการขับขี่บนท้องถนน เป็นเหตุผลที่ทำให้ระบบการทำงานของรถไฟฟ้านั้นมีความเเตกต่างไปจากรถน้ำมัน ไม่ว่าจะเป็น เเบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ระบบเบรกที่ทำงานด้วยระบบไฟฟ้า มอเตอร์เเรงส่งสูง เเละชิ้นส่วนอะไหล่ต่างๆของรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งนี้รวมถึงยางรถไฟฟ้าที่มีผลต่อสมรรถนะการขับขี่ด้วยเช่นกัน ซึ่งคุณสมบัติของรถไฟฟ้าที่ควรรู้เพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจเลือกยางรถไฟฟ้าได้อย่างเหมาะสม ได้เเก่

1. รถไฟฟ้าไม่มีเครื่องยนต์ที่ปล่อยเสียงรบกวนขณะขับขี่เหมือนรถน้ำมัน ในระหว่างการเดินทาง ห้องโดยสารจึงค่อนข้างมีความเงียบ ส่งผลให้ผู้โดยสารได้ยินเสียงรบกวนได้ง่ายกว่าปกติ ในบางรุ่นของยางรถจึงมีฟองน้ำบุอยู่ภายในล้อเพื่อช่วยดูดซับเสียง เเละลดเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นในห้องโดยสารได้

2. รถไฟฟ้ามีเเรงบิดเเละกำลังส่งสูงกว่ารถน้ำมัน เมื่อมีกำลังส่งสูงย่อมเกิดเเรงเสียดสีที่มากตามมา ยางรถไฟฟ้าจึงต้องมีคุณสมบัติยึดเกาะสูง ทนต่อเเรงเสียดสีที่มีมากขึ้นได้ เพื่อลดโอกาสการสึกหรอของยางก่อนเวลาอันควร

3. รถไฟฟ้ามีเเบตเตอรีสำรองพลังงานขนาดใหญ่เพื่อกักเก็บพลังงาน ที่มีน้ำหนักมาก ยางรถไฟฟ้าที่นำมาใช้ควรมีความสามารถในการรับน้ำหนักได้อย่างเหมาะสม 

4. รถไฟฟ้ามีระบบเบรก Regenerative Braking ที่อาศัยการทำงานด้วยระบบไฟฟ้า ประกอบกับน้ำหนักที่มีมากขึ้นส่งผลให้เกิดความเฉื่อยเพิ่มขึ้น ยางรถไฟฟ้าที่เหมาะสมจึงต้องมีประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนสูง

5. รถไฟฟ้าต้องใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อน ยิ่งประหยัดพลังงานมากเท่าไหร่ก็ยิ่งวิ่งได้ระยะทางไกลมากขึ้นเท่านั้น การเลือกยางรถไฟฟ้าที่มีความต้านทานการหมุนต่ำสามารถช่วยให้เกิดการสูญเสียพลังงานน้อยที่สุดได้

 

BRIDGESTONE ขอแนะนำยางรุ่นที่เหมาะสมสำหรับใช้กับรถยนต์ EV ผ่านการออกแบบด้วยเทคโนโลยีชั้นเลิศ เพื่อเติมเต็มทุกประสบการณ์การขับขี่โดยยางของเรามีความสามารถในการต้านทานการหมุนที่ดี ช่วยลดแรงเสียดทานระหว่างยางกับพื้นถนนลดการสูญเสียพลังงาน และยังผสานสมรรถนะด้านความปลอดภัย ให้คุณขับขี่รถยนต์ EV ของคุณได้อย่างมั่นใจ

ยาง BRIDEGESTONE ยังมีโครงสร้างยางที่แข็งแรงเป็นพิเศษ สามารถรับน้ำหนักแบตเตอรี่ของรถยนต์ EV ได้เป็นอย่างดี ให้ทุกการเดินทางของคุณเต็มไปด้วยความรื่นรมย์ ด้วยยางที่ช่วยลดเสียงรบกวนในขณะขับขี่ เหมาะสำหรับรถยนต์ EV ที่ไร้เสียงเครื่องยนต์

ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่น ทำให้ยางรถยนต์ BRIDGESTONE คือหนึ่งในตัวเลือกที่สามารถใช้งานได้ สำหรับใช้กับรถยนต์ EVส่งเสริมให้การขับขี่รถยนต์ EV ของคุณได้เป็นไปอย่างเต็มประสิทธิภาพ

ยางรถยนต์ BRIDGESTONE มีหลากหลายรุ่น ให้เลือกสรรได้อย่างเหมาะสมสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย พร้อมรองรับการใช้งานในทุกรูปแบบการใช้ชีวิต คุณสามารถเลือกดูรายละเอียดเพิ่มเติม สำหรับยางรุ่นต่างๆ ที่เหมาะกับรถยนต์ EV ของคุณ ได้ที่นี่

รุ่นยางที่เหมาะสมกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า

ยี่ห้อ/รุ่นรถ

รุ่นย่อย

ขนาดยาง

รุ่นยาง

BYD ATTO 3

Standard/Extended Range

215/55R18

ALENZA 001

NETA V

-

185/55R16

ECOPIA EP300

MG 4 ELECTRIC

D / X

215/50R17

TURANZA T005A

ECOPIA EP300

POTENZA Adrenalin RE004

MG EP PLUS

-

205/60R16

TURANZA T005A

ECOPIA EP300

MG ZS EV

D / X

215/55R17

ALENZA 001

VOLVO XC40 Recharge

-

ขนาดยางล้อหน้า: 235/50R19 | ขนาดยางล้อหลัง: 255/45R19

ALENZA 001

BYD Dolphin

Standard

Extended range

195/60R16

205/50R17

ECOPIA EP150

ECOPIA EP300

BMW iX

xDrive 40 Sport

xDrive 50 Sport

275/40R22

ALENZA 001

BMW iX3

M Sport (Pro)

ขนาดยางล้อหน้า: 245/45R20 l ขนาดยางล้อหลัง: 275/40R20

ALENZA 001

 

วิธีดูเเลยางรถไฟฟ้าเเละการเติมลมยางอย่างเหมาะสม

การดูเเลยางรถไฟฟ้านั้นไม่ได้เเตกต่างจากยางรถยนต์ทั่วไปเท่าไรนัก ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบการตั้งศูนย์ล้อ เช็กการสึกหรอของยางอย่างสม่ำเสมอ เเละคอยวัดความดันลมยางไม่ให้มากหรือต่ำเกินไป 

กรณีที่เติมลมยางมากเกินไป จะส่งผลให้เกิดการสึกผิดปกติบริเวณหน้ายาง หน้าสัมผัสของยางรถไฟฟ้ากับพื้นผิวถนน เเละการยึดเกาะน้อยลง ซึ่งอาจส่งผลต่อการเบรก การควบคุมรถ เเละการเข้าโค้ง เพิ่มความเสี่ยงยางระเบิดเเละยางหมดอายุการใช้งานก่อนเวลาอันควร 

กรณีที่เติมลมยางน้อยเกินไป ทำให้เกิดการสึกผิดปกติบริเวณไหล่ยาง เเก้มยางอาจโค้งงอซึ่งส่งผลเสียต่อการควบคุมรถยนต์ เเละหากใช้ไประยะหนึ่งยางอาจเกิดการสะสมความร้อนเนื่องด้วยต้องใช้เเรงต้านการหมุนที่สูงขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ยางจะระเบิดเเละเกิดการสึกหรอได้เร็วมากขึ้น

ดังนั้น ความดันลมยางที่เหมาะสม แนะนำให้ดูจากคู่มือประจำรถ ขอบประตูฝั่งคนขับ หรือบริเวณฝาครอบถังน้ำมัน โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 32-35 psi ขึ้นอยู่กับรถเเละยางรถไฟฟ้าเเต่ละรุ่น ในส่วนของอายุการใช้งานนั้นส่วนใหญ่มักจะมีระยะการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 2 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับสภาพยางและการดูแลรักษา

ถ้าหากยางรถไฟฟ้ารั่วทำอย่างไร

เมื่อยางรถไฟฟ้ารั่ว ผู้ขับขี่ควรตั้งสติและนำรถเข้าข้างทางอย่างระมัดระวัง และไม่ควรฝืนขับต่อไป เพราะอาจจะให้ระบบ Tire Pressure Monitoring Sensor (TPMS) (สำหรับรถไฟฟ้าที่มีระบบนี้) และโครงสร้างยาง รวมถึงตัวรถยนต์ช่วงล่าง เกิดความเสียหาย และเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ สิ่งที่ควรทำคือหยุดรถ ประเมินความเสียหาย และติดต่อศูนย์บริการหรือบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน เพื่อให้ดำเนินการช่วยเหลืออย่างถูกต้อง 

หมายเหตุ

1. รุ่นยางที่เหมาะสมกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าข้างต้น เป็นการเปรียบเทียบ ผลิตภัณฑ์ของบริดจสโตน กับ ขนาดยางที่ใช้กับรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นต่าง ๆ ในท้องตลาด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 กรุณาตรวจสอบขนาดยางของรถยนต์ไฟฟ้าอีกครั้งเพื่อความถูกต้อง

2. ขนาดของยางและรุ่นยางมีดัชนีความสามารถในการรับน้ำหนักตามที่กำหนดไว้ การเลือกยางให้เหมาะสมกับรถยนต์ไฟฟ้า ต้องเป็นไปตามหลักการคำนวณที่กำหนดไว้ในมาตรฐานขององค์การด้านเทคนิคยางล้อและกระทะล้อสหภาพยุโรป (European Tyre and Rim Technical Organisation, ETRTO)

3. ควรเลือกรุ่นยางให้เหมาะสมลักษณะกับการใช้งาน เนื่องจากสมรรถนะของยางรถยนต์แต่ละรุ่นมีความแตกต่างกัน