บริดจสโตน พัฒนายางรถยนต์ Potenza สำหรับรถสปอร์ตซูเปอร์คาร์ Maserati MC20

·    บริดจสโตน เป็นพันธมิตรยางรถยนต์แต่เพียงผู้เดียวสำหรับรถสปอร์ตซูเปอร์คาร์รุ่นใหม่ มาเซราติ MC20

·    ยางรถยนต์ Potenza พัฒนาขึ้นเฉพาะสำหรับรถสปอร์ตซูเปอร์คาร์ เพิ่มสมรรถนะการควบคุมยานพาหนะและเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่สูงสุด

·    เทคโนโลยีการพัฒนายางรถยนต์ที่ทันสมัยของบริดจสโตน ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพและความยั่งยืนในกระบวนการพัฒนายางรถยนต์

บรัสเซลล์ (27 สิงหาคม 2563) –บริดจสโตน ได้รับเลือกเป็นผู้ผลิตยางรถยนต์แต่เพียงผู้เดียวสำหรับรถสปอร์ตซูเปอร์คาร์รุ่นใหม่ มาเซราติ (Maserati) MC20 โดยการร่วมมือกันระหว่างผู้นำในอุตสาหกรรมสองรายนี้ได้กำหนดมาตรฐานใหม่ ซึ่งสามารถเพิ่มขีดความสามารถให้กับรถสปอร์ตซูเปอร์คาร์ รุ่นใหม่ มาเซราติ MC20 ได้อย่างน่าทึ่ง ผ่านการพัฒนายางรถยนต์ บริดจสโตน Potenza ระดับพรีเมียม

สมรรถนะของรถสปอร์ตซูเปอร์คาร์

ในขั้นตอนการพัฒนารถสปอร์ตซูเปอร์คาร์ MC20 ใหม่ที่น่าทึ่งนี้ มาเซราติ ต้องการยางสปอร์ตระดับพรีเมียมที่สามารถให้สมรรถนะที่เหนือกว่า โดยบริดจสโตนซึ่งเป็นพันธมิตรของมาเซราติ สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างแท้จริงด้วย ยางบริดจสโตน Potenza ที่พัฒนาปรับแต่งและตอบโจทย์ทุกความต้องการของมาเซราติ

MC20 แสดงถึงนวัตกรรมทางเทคนิคและวิศวกรรมของมาเซราติ และเป็นก้าวที่แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของสมรรถนะที่เหนือกว่ารุ่นก่อนหน้า  บริดจสโตนมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถด้านสมรรถนะของ MC20 ด้วยยางรถยนต์บริดจสโตน Potenza ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับลูกค้า ซึ่งมาพร้อมกับการออกแบบดอกยางแบบไม่สมมาตรเพื่อเพิ่มการตอบสนองของพวงมาลัยและการทรงตัวในการเข้าโค้ง บวกกับเนื้อยางที่ถูกพัฒนาใหม่ช่วยเพิ่มสมรรถนะการยึดเกาะถนน และเสริมโครงสร้างยางเพื่อช่วยกระจายแรงกดให้เสมอกันเมื่อเค้าโค้ง  คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้ได้ยางที่มีสมรรถนะสูงซึ่งมอบสุดยอดสมรรถนะในการควบคุม, ความเร็ว และการทรงตัว ตอบโจทย์การพัฒนาสมรรถนะโดยรวมของสปอร์ตซูเปอร์คาร์ได้

ความสำเร็จของมอเตอร์สปอร์ตถือกำเนิดในอิตาลี

การเป็นพันธมิตรระยะยาวระหว่างบริดจสโตนและมาเซราติ ถือกำเนิดจากการแข่งรถมอเตอร์สปอร์ต โดยยางรถยนต์ Potenza ของบริดจสโตนเกิดจากความร่วมมืออย่างยาวนานกับการแข่งขันรถฟอร์มูล่าวัน ในขณะที่ MC20 ก็แสดงให้เห็นถึงการกลับสู่รถแข่งของมาเซราติ ด้วยสมรรถนะที่น่าทึ่งทั้งในสนามและนอกสนามแข่ง ซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของดีเอ็นเอแห่งการบุกเบิกของทั้งสองบริษัท

บริดจสโตนและมาเซราติ ใช้ศูนย์วิจัยและเทคโนโลยีของตนเองในการพัฒนาและทดสอบรถสปอร์ตซูเปอร์คาร์ MC20 ใหม่ และยางรถยนต์บริดจสโตนให้ได้ตามความต้องการ โดยใช้เทคโนโลยีการจำลองแบบยางระบบเสมือนจริงที่เป็นเอกสิทธิ์ขั้นสูงของบริดจสโตนที่ช่วยลดระยะเวลาการพัฒนา, ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการใช้ทรัพยากรน้อยลง และลดเวลาการเปิดตัวสู่ตลาด ซึ่งทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยการออกแบบรถสปอร์ตซูเปอร์คาร์ MC20 ใช้เวลาเพียง 24 เดือน ผู้นำอุตสาหกรรมทั้งสองคำนึงถึงการผนวกรวมนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ยั่งยืนเป็นหลัก โดยมีแผนว่าจะเปิดตัวสปอร์ตซูเปอร์คาร์ MC20 ในอนาคตอันใกล้

Steven De Bock รองประธานฝ่ายอะไหล่ทดแทนและ OE ของบริดจสโตนในภูมิภาคยุโรป (BSEMIA) ให้ความเห็นว่า     “ยางบริดจสโตน Potenza ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะลูกค้านี้ได้รับการพัฒนา, ทดสอบ และผลิตขึ้นในยุโรป ซึ่งเป็นการออกแบบเพื่อตอบโจทย์ความต้องการขั้นสูงที่เราได้ทำงานร่วมกับมาเซราติอีกครั้งผ่านการพัฒนายางรถยนต์บริดจสโตน Potenza ด้วยวิศวกรรมพิเศษที่ช่วยให้รถสปอร์ตซูเปอร์คาร์ MC20 ของมาเซราติ สามารถโชว์พลังควบคุมและเพิ่มสมรรถนะการขับขี่แบบสปอร์ตได้อย่างมั่นใจ”

“โครงการ MC20 เป็นความก้าวหน้าล่าสุดระหว่าง บริดจสโตนและมาเซราติในการบุกเบิกอุตสาหกรรมยานยนต์ ทั้งสองบริษัทต่างมีความมุ่งมั่นในการสร้างนวัตกรรมและความเป็นเลิศ นำเสนอผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมที่มอบสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้า โดยรถสปอร์ตซูเปอร์คาร์ MC20 ของมาเซราติ และยางบริดจสโตน Potenza ได้รับการออกแบบในอิตาลีโดยสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด ซึ่งบริดจสโตนมีความเชี่ยวชาญทางวิศวกรรมในการพัฒนายางรถสปอร์ตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของรถสปอร์ตซูเปอร์คาร์ MC20 ได้อย่างน่าทึ่ง” Federico Landini ผู้บริหารกลุ่มผลิตภัณฑ์รถยนต์ มาเซราติ กล่าว

สำหรับข่าวสารเพิ่มเติมของบริดจสโตน สามารถติดตามทางเว็บไซต์ www.bridgestone.com/

เกี่ยวกับบริดจสโตน

บริษัท บริดจสโตน คอร์ปอเรชั่น  มีสำนักงานใหญ่ที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นบริษัทผลิตยางรถยนต์และผลิตภัณฑ์ยางที่ใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากการผลิตยางรถยนต์สำหรับการนำไปใช้ที่หลากหลายกว้างขวางแล้ว ยังผลิตผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่หลากหลายครอบคลุมในวงกว้างซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์ยางอุตสาหกรรมและเคมีภัณฑ์ และอุปกรณ์กีฬา ผลิตภัณฑ์ของบริดจสโตน มีจำหน่ายมากกว่า 150 ประเทศทั่วโลก

สำหรับประเทศไทย บริดจสโตนประสบสำเร็จในการเป็นผู้นำทางการตลาดยางรถยนต์ในประเทศตลอดกว่า 51  ปี นับตั้งแต่เริ่มเปิดดำเนินการในปีพ.ศ. 2512 โดยมีแนวทางการทำงาน คือ มุ่งมั่น ริเริ่ม สร้างสรรค์ คิดค้น วิจัย พัฒนาผลิตภัณฑ์ในทุกๆด้านให้ดีที่สุดและเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในประเทศ ตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพ การนำเครื่องจักรและเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในกระบวนการผลิต การตรวจสอบควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวดทุกขั้นตอน นอกจากนี้บริดจสโตนยังส่งเสริมและรักษาสิ่งแวดล้อม รวมทั้งกิจกรรมเพื่อสังคมให้สอดคล้องกับปรัชญาที่ยึดมั่นเป็นหนึ่งเดียวกันทั่วโลกว่า “รับใช้สังคม ด้วยคุณภาพที่เหนือกว่า” (Serving Society with Superior Quality)