Bridgestone Potenza Sport ได้รับเลือกจาก Lamborghini ให้เป็นยางติดรถ เติมเต็มสมรรถนะสูงสุดของรถซูเปอร์สปอร์ตคาร์รุ่น Huracán STO

Bridgestone Potenza Sport ได้รับเลือกจาก Lamborghini ให้เป็นยางติดรถ เติมเต็มสมรรถนะสูงสุดของรถซูเปอร์สปอร์ตคาร์รุ่น Huracán STO

งาน “Lamborghini Huracán STO Track Day 2022” ณ สนามแข่งรถพีระอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จังหวัดชลบุรี
งาน “Lamborghini Huracán STO Track Day 2022” ณ สนามแข่งรถพีระอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จังหวัดชลบุรี

[กรุงเทพฯ] (3 พฤศจิกายน 2565) – บริดจสโตน (Bridgestone) ผู้นำด้านการผลิตยางรถยนต์ระดับโลก ได้รับเลือกจาก ลัมโบร์กินี (Lamborghini) ให้เป็นผู้พัฒนา
ยาง Bridgestone Potenza Sport รุ่นพิเศษขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อใช้เป็นยางติดรถซูเปอร์สปอร์ตคาร์ Lamborghini Huracán STO (ลัมโบร์กินี ฮูราแคน เอสทีโอ) เครื่องยนต์ V10 ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากสนามแข่ง นับเป็นความร่วมมือระหว่าง 2 บริษัทผู้นำในวงการรถยนต์และยางรถยนต์ ในการผสานกันระหว่างเทคโนโลยีและการออกแบบอย่างลงตัว เพื่อให้ได้ยางรถยนต์ที่มีคุณสมบัติโดดเด่นและคุณภาพสูง เพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดในการยึดเกาะถนน ควบคุมการขับขี่
ให้เป็นหนึ่งเดียวกันในทุกเส้นทาง เพื่อเติมเต็มสมรรถนะสูงสุดโดยรวมของรถ Huracán STO ซึ่งได้มีการจัดทดสอบสมรรถนะอันยอดเยี่ยมของรถและยาง
ในงาน “Lamborghini Huracán STO Track Day 2022” ณ สนามแข่งรถพีระอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จังหวัดชลบุรี

บรรยากาศการให้ข้อมูลยาง Bridgestone Potenza Sport กับลูกค้าและสื่อมวลชน
บรรยากาศการให้ข้อมูลยาง Bridgestone Potenza Sport กับลูกค้าและสื่อมวลชน

“Bridgestone Potenza Sport” เป็นยางสปอร์ตพรีเมียมสมรรถนะสูงพิเศษที่พัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะสำหรับรถซูเปอร์สปอร์ตคาร์ Huracán STO จากความร่วมมือ
ของทีมงาน Bridgestone และ Lamborghini ที่ได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกันเป็นครั้งแรก โดยกุญแจสู่ความสำเร็จของยางรุ่นนี้ในการเพิ่มสมรรถนะสูงสุด คือ
การผสานกันระหว่างการออกแบบลายดอกยางและการใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ล้ำสมัย ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของบริดจสโตน เพื่อนำไปสู่การยกระดับยางรถยนต์มาตรฐานใหม่ระดับพรีเมียม และความสปอร์ตระดับไฮเอนด์ โดยการนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ พร้อมด้วยนวัตกรรมที่หลากหลาย เพื่อดึงสมรรถนะสูงสุดของยางให้
เทียบเท่ากับยางระดับชั้นนำที่ใช้ในสนามแข่ง อาทิ

·        การออกแบบลายดอกยางแบบไม่สมมาตร ช่วยเสริมความแข็งแรง และลดการบิดตัวของบล็อกดอกยาง หน้าสัมผัสยางสไตล์สปอร์ต เพื่อการยึดเกาะถนน
ที่ทรงพลัง ให้การขับขี่ที่สนุกและการควบคุมที่ดียิ่งขึ้น

·    เทคโนโลยีการออกแบบร่องดอกยางแบบ 3 มิติ ช่วยให้เบรกและต้านทานการสึกหรอได้ดียิ่งขึ้น พร้อมจัดวางร่องรีดน้ำให้เหมาะสม เพิ่มความแม่นยำ
ทุกการเข้าโค้ง

·    โครงสร้างยางได้รับการออกแบบมาเพื่อรถสปอร์ตโดยเฉพาะ เพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะได้ดีทั้งบนถนนแห้งและเปียกทุกการขับขี่อย่างเต็มประสิทธิภาพ
เสริมการตอบสนองต่อพวงมาลัยและการทรงตัวขณะขับขี่ได้เป็นอย่างดี

·    รวบรวมที่สุดแห่งเทคโนโลยีเพื่อศักยภาพขั้นสุดของยางรถสปอร์ต โดยผสมผสานกำลังเส้นใยเหล็กและดอกยางแบบไฮบริด ตอบสนองการควบคุม
ได้อย่างเหนือชั้น จัดเต็มสมรรถนะครบทุกฟังก์ชันแห่งความสปอร์ตในทุกการขับขี่

นอกจากนี้ในขั้นตอนของการทดสอบและพัฒนาได้ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี “การพัฒนายางรถยนต์เสมือนจริง (Virtual Tire Development)” ซึ่งเป็นกระบวนการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากไม่จำเป็นต้องผลิตยางรถยนต์ของจริงออกมาในช่วงขั้นตอนการพัฒนา เพื่อเป็นการช่วยลดเวลา และกระบวนการผลิตได้
อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงนำเสนอสินค้าออกสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็ว ผนวกรวมกับการตอบสนองของยางในแต่ละภารกิจการขับขี่ เพื่อค้นหาความลงตัว
ที่สมบูรณ์แบบที่สุดในโปรแกรมจำลองการขับขี่เสมือนจริงเพื่อให้สมรรถนะที่ดีของยาง Bridgestone Potenza Sport หลอมรวมกับประสิทธิภาพด้านแรงบิด
ของซูเปอร์สปอร์ตคาร์ Huracán STO ได้อย่างแท้จริง

ยาง Bridgestone Potenza Sport กับ Lamborghini Huracán STO
ยาง Bridgestone Potenza Sport กับ Lamborghini Huracán STO

ทั้งนี้ Lamborghini Huracán STO (Super Trofeo Omologata) เป็นซูเปอร์สปอร์ตคาร์ของค่ายลัมโบร์กินีที่ได้รับการถ่ายทอด DNA จากสนามแข่งสู่การใช้งาน
บนท้องถนน ทำให้ผู้ขับขี่สัมผัสได้ถึงความเร้าใจตามแบบฉบับของรถแข่งในรูปแบบที่เหมาะสำหรับการใช้งานบนถนนสาธารณะ การออกแบบได้แรงบันดาลใจ
มาจากรถแข่งของแผนก Squadra Corse ซึ่งทำหน้าที่วิจัยและพัฒนารถแข่งของค่ายอย่าง Huracán Super Trofeo EVO และ Huracán GT3 EVO ที่พิชิตชัยชนะ
จากรายการ 24 Hours of Daytona 3 สมัย และ 12 Hours of Sebring 2 สมัย ด้วยเครื่องยนต์ V10 แบบ NA ที่มอบกำลังเครื่องสูง 640 แรงม้า (470 กิโลวัตต์) และ
แรงบิด 565 นิวตันเมตรที่ 6,500 รอบต่อนาที โดยส่งกำลังไปที่ล้อคู่หลัง ส่งผลให้ Huracán STO สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 3.0 วินาที และจาก 0-200 กม./ชม. ในเวลาเพียง 9.0 วินาที ส่งมอบสุดยอดประสบการณ์การขับขี่ที่ปลุกเร้าทุกโสตประสาทและสัมผัสถึงจิตวิญญาณแห่งสนามแข่ง
ให้แก่นักขับทุกครั้งเมื่อนั่งหลังพวงมาลัย ซึ่งบริษัท เรนาสโซ มอเตอร์ จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ลัมโบร์กินีอย่างเป็นทางการรายเดียวในประเทศไทย
ได้นำ Huracán STO เข้ามาจำหน่ายแล้ว ในราคาเริ่มต้นที่ 29,990,000 บาท พร้อมกับได้จัดกิจกรรม Lamborghini Huracán STO Track Day 2022 เพื่อให้ลูกค้าและสื่อมวลชนได้ทดสอบสมรรถนะในแบบวิ่งเต็มแทรค ที่สนามแข่งรถพีระอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 20-22 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา
ถือเป็นโอกาสที่ดีเยี่ยมในการนำเสนอขีดความสามารถอันเหนือระดับบนสนามแข่งของ Huracán STO ในประเทศไทย

มร.  ฮารุกิ ยามาดะ ผู้อำนวยการสายงานธุรกิจยางรถยนต์นั่งและรถบรรทุกขนาดเล็ก บริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวทิ้งท้ายว่า
“Bridgestone ภูมิใจที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในงานทดสอบสมรรถนะการขับขี่รอบเอ็กซ์คลูซีฟของ Lamborghini Huracán STO ความร่วมมือระหว่าง Lamborghini Huracán STO รถซูเปอร์สปอร์ตคาร์ที่ยอดเยี่ยมกับ Bridgestone Potenza Sport ยางสปอร์ตพรีเมียมที่พัฒนาขึ้นโดยเฉพาะเพื่อเป็นยางติดรถ นับเป็นการจับคู่ที่เหมาะสมและเติมเต็มสมรรถนะสูงสุดของรถที่มีจิตวิญญาณของรถแข่ง ผมภูมิใจที่ยางของ Bridgestone ได้มีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์ยนตรกรรมที่มีความสมบูรณ์แบบเหนือระดับคันนี้”

เกี่ยวกับ บริดจสโตน ประเทศไทย

บริษัท บริดจสโตน คอร์ปอเรชั่น มีสำนักงานใหญ่ที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ผู้นำระดับโลกด้านการเดินทางอย่างยั่งยืนพร้อมนำเสนอโซลูชั่นขั้นสูงสุด และสำหรับประเทศไทย บริษัท ไทยบริดจสโตน จำกัด คือหนึ่งในผู้ผลิตชั้นนำในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และบริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านการนำเข้า จัดจำหน่าย และทำการตลาดยางรถยนต์ภายใต้แบรนด์บริดจสโตน, ไฟร์สโตน และเดย์ตันแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เราได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้า, ผู้แทนจำหน่าย และพันธมิตรทางธุรกิจจากความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์ที่มาพร้อมกับคุณภาพด้านผลิตภัณฑ์ที่ได้ถูกพัฒนาให้เหมาะสมกับความต้องการและสภาพแวดล้อมในประเทศ เพื่อการส่งมอบคุณค่าให้แก่สังคมและลูกค้า บริดจสโตนมุ่งมั่นพัฒนาการเดินทาง, การใช้ชีวิต, การทำงาน และการพักผ่อนของผู้คน เพื่อสร้างสรรค์อนาคตของการเดินทางให้ยั่งยืน