เตรียมตัวให้พร้อม สอบใบขับขี่รถยนต์ผ่านในครั้งเดียว

ความรู้เรื่องยาง | ความรู้ทั่วไปสำหรับผู้ใช้รถยนต์

ใบขับขี่รถยนต์คืออะไรเเละมีกี่ประเภท

ใบขับขี่รถยนต์ คือ ใบอนุญาตให้บุคคลนั้นสามารถขับขี่รถยนต์บนท้องถนนได้ ผู้ใดขับรถโดยไม่มีใบขับขี่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือนหรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เเละหากผู้ใดขับรถเมื่อใบอนุญาตสิ้นอายุลง หรือถูกเพิกถอน ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท ดังนั้นการสอบเพื่อให้ได้รับใบขับขี่รถยนต์จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ขับขี่ควรให้ความใส่ใจเเละไม่มองข้ามไป ซึ่งใบขับขี่รถยนต์ (ประเภทส่วนบุคคล) มีอยู่สองประเภท ได้แก่

1. ใบขับขี่รถยนต์ชั่วคราว

เป็นใบขับขี่ใบเเรกที่จะได้รับเมื่อทำใบขับขี่รถยนต์ในครั้งเเรก โดยจะมีอายุการใช้งานเพียง 2 ปีนับจากวันสิ้นสุดการสอบใบขับขี่รถยนต์เท่านั้น เมื่อใกล้หมดอายุการใช้งานจึงต้องไปต่ออายุเเละเปลี่ยนเป็นใบขับขี่รถยนต์ทั่วไป

2.ใบขับขี่รถยนต์ทั่วไป

จะได้รับก็ต่อเมื่อใบขับขี่รถยนต์ชั่วคราวหมดอายุลงเเล้วเเละได้ไปทำการต่ออายุใบขับขี่ใหม่ ซึ่งมีระยะเวลาการใช้ได้ถึง 5 ปี

คุณสมบัติของผู้ที่สามารถสอบใบขับขี่รถยนต์ได้

ต้องเป็นบุคคลที่มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ไม่เป็นผู้ที่มีสติฟั่นเฟือน เป็นบุคคลวิกลจริตหรือมีร่างกายพิการจนเห็นว่าไม่สามารถขับรถได้  ไม่มีโรคประจำตัวที่เป็นอันตรายต่อการขับรถเเละไม่เป็นผู้ที่อยู่ระหว่างการถูกยึดหรือเพิกถอนใบขับขี่รถยนต์

Driver License Image


ขั้นตอนในการสอบใบขับขี่รถยนต์ใหม่

1. จองคิวสอบใบขับขี่รถยนต์ออนไลน์

ผู้รับบริการต้องจองคิวการสอบใบขับขี่รถยนต์ล่วงหน้าผ่านทางเเอปพลิเคชัน DLT Smart Queue หรือผ่านทางเว็บไซต์ gecc.dlt.go.th ของกรมขนส่งทางบก เเละบันทึกหลักฐานการจองเพื่อนำไปยื่นในวันที่เข้ารับบริการ

2. เตรียมเอกสารที่ต้องใช้ 

เอกสารจำเป็นที่ใช้ในการสอบใบขับขี่รถยนต์ ได้แก่ บัตรประชาชนตัวจริง เเละใบรับรองเเพทย์ที่อายุไม่เกิน 1 เดือน เเต่ในกรณีต่ออายุใบขับขี่หรือเปลี่ยนจากใบขับขี่รถยนต์ชั่วคราว 2 ปีเป็นใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล 5 ปี จะต้องนำใบอนุญาตขับขี่เดิมหรือใบเเทนไปด้วย

3. ทำการทดสอบสมรรถภาพร่างกาย

ขั้นตอนนี้มีความสำคัญมากเนื่องจากเป็นขั้นตอนหนึ่งเพื่อยืนยันว่าผู้เข้าสอบมีสมรรถภาพภาพการมองเห็นที่ดี ถ้าหากไม่ผ่านในขั้นตอนนี้ จะไม่สามารถสอบใบขับขี่รถยนต์ขั้นต่อๆ ไปได้  โดยเเบ่งออกเป็นสามด้าน ได้เเก่ การทดสอบสายตาด้านการมองเห็นสีโดยการเเยกเเยะสีเขียว สีเหลืองเเละสีเเดง  การทดสอบสายตาทางลึกเเละทางกว้าง เเละสุดท้ายคือการทดสอบปฏิกิริยาของเท้าโดยการเหยียบเบรคเมื่อเห็นไฟสัญญาณสีเเดง

4. เข้ารับการอบรม

สำหรับผู้เข้าสอบใบขับขี่รถยนต์ที่ไม่เคยมีใบขับขี่มาก่อน จำเป็นที่ต้องเข้ารับการอบรมที่สำนักงานเป็นเวลา 5 ชั่วโมง ไม่สามารถเข้ารับการอบรมใบขับขี่ออนไลน์ได้เหมือนการต่ออายุใบขับขี่ ซึ่งท่านสามารถเลือกช่วงเวลาในการอบรมได้เเบ่งเป็นช่วงเช้า เเละช่วงบ่ายตามที่ท่านสะดวก

5. ทำการสอบข้อเขียนด้วยคอมพิวเตอร์ ผ่านระบบ Electronic Examination (E-exam)

ขั้นตอนการสอบใบขับขี่รถยนต์ภาคทฤษฎี เป็นการทำข้อสอบที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับกฎหมายจราจร ป้ายสัญลักษณ์ต่างๆ เทคนิคการขับรถอย่างปลอดภัยเเละเนื้อหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมีจำนวนทั้งหมด 50 ข้อ ผู้เข้าสอบจะต้องตอบให้ถูกอย่างน้อย 90 เปอร์เซ็นต์ หรือ 45 ข้อ เพื่อผ่านการทดสอบ ในกรณีที่ไม่ผ่านสามารถกลับมาสอบใหม่ได้ในวันถัดไปได้ เเต่ต้องไม่เกิน 90 วันหลังจากเข้ารับการอบรม

6. สอบปฏิบัติ

ในการสอบใบขับขี่รถยนต์ภาคปฏิบัติ เป็นขั้นตอนที่ผู้เข้าสอบใบขับขี่รถยนต์เป็นกังวลกันมากที่สุด เเต่ถ้าหากมีการเตรียมตัวเเละฝึกฝนมามากพอสมควรเเล้ว การสอบให้ผ่านก็ไม่ใช่เรื่องยากอย่างเเน่นอน โดยท่าสอบจะประกอบไปด้วยกันสามท่าคือ ท่าเเรกการขับรถเดินหน้าเเละถอยหลังในทางตรง โดยประมาณ 10 - 20 เมตรโดยไม่ชนสิ่งกีดขวาง ท่าที่สองคือ การขับรถเดินหน้าและหยุดรถเทียบทางเท้าโดยต้องจอดเทียบห่างจากขอบทางไม่เกิน 25 เซนติเมตร ท่าสุดท้ายคือ ขับรถถอยเข้าซอง โดยการเข้าจอดในช่องสี่เหลี่ยมที่มีเสาล้อมให้ได้ไม่เกิน 7 ครั้ง เเละกระจกมองข้างต้องไม่ล้ำออกมานอกเส้นที่กำหนด ในกรณีที่สอบไม่ผ่าน เจ้าหน้าที่จะออกใบนัดจองคิวทดสอบขับรถใหม่เเค่เฉพาะท่าที่ไม่ผ่านเกณฑ์เท่านั้น


7. ถ่ายรูปทำใบขับขี่เเละชำระเงิน

หลังจากสอบใบขับขี่รถยนต์ผ่านทั้งภาคทฤษฎีเเละปฏิบัติเเล้ว ก็ถึงขั้นตอนที่ต้องมาออกใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ เเละถือว่าเป็นการเสร็จสิ้นกระบวนการการสอบใบขับขี่รถยนต์อย่างสมบูรณ์

Driver License Image


ขั้นตอนการต่ออายุใบขับขี่รถยนต์

กรณีต่ออายุใบขับขี่ชั่วคราว 2 ปี เป็นใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล 5 ปี 

1. จองคิวเข้ารับการบริการผ่านทางเเอพลิเคชั่น DLT Smart Queue หรือผ่านทางเว็บไซต์ gecc.dlt.go.th ของกรมขนส่งทางบก โดยไม่ต้องทำการอบรม
2. ยื่นคำขอตรวจสอบที่สำนักงานขนส่ง เพื่อตรวจสอบเอกสารเเละคุณสมบัติเบื้องต้น
3. ทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย ด้านสายตาทางลึก ทางกว้าง ตาบอดสี เเละปฏิกิริยาทางเท้า
4. ชำระค่าธรรมเนียมเพื่อรับใบขับขี่รถยนต์อายุ 5 ปี

กรณีต่ออายุใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล ทุกๆ 5 ปี

1. อบรมออนไลน์ผ่าน DLT e-Learning เป็นการชมวิดีโออบรมความรู้ด้านข้อปฏิบัติในการขับขี่เป็นระยะเวลา 1 ชั่วโมง ซึ่งจะมีการทำเเบบทดสอบเพื่อรับผลการอบรมสำหรับนำไปยื่นต่อสำนักงานขนส่งในวันต่อใบอนุญาตขับขี่
2. จองคิวเข้ารับการบริการผ่านทางเเอพลิเคชั่น DLT Smart Queue หรือผ่านทางเว็บไซต์ gecc.dlt.go.th ของกรมขนส่งทางบก
3. ยื่นคำขอตรวจสอบที่สำนักงานขนส่ง เพื่อตรวจสอบเอกสารเเละคุณสมบัติเบื้องต้น
4. ทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย ด้านสายตาทางลึก ทางกว้าง ตาบอดสี เเละปฏิกิริยาทางเท้า
5. ชำระค่าธรรมเนียมเพื่อรับใบขับขี่รถยนต์อายุ 5 ปี

หากใบขับขี่หมดอายุนานเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี ผู้ขอต้องสอบข้อเขียนใหม่เเละต้องเข้ารับการอบรม 2 ชั่วโมง เเต่ถ้าหากใบขับขี่หมดอายุเกิน 3 ปี ผู้ขอจะต้องสอบใบขับขี่รถยนต์ใหม่ทั้งภาคทฤษฎีและเข้ารับการสอบปฏิบัติด้วย


การอบรมใบขับขี่รถยนต์ออนไลน์ DLT e-Learning

การอบรมใบขับขี่ออนไลน์นั้นมีไว้บริการสำหรับการต่ออายุใบขับขี่เท่านั้น ในกรณีสอบใบขับขี่รถยนต์ใหม่จะต้องจองคิวเข้ารับการอบรมล่วงหน้าผ่านเเอป DLT Smart Queue เเละเข้าไปอบรมที่กรมการขนส่งตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น สำหรับขั้นตอนการอบรมใบขับขี่ออนไลน์เพื่อใช้สำหรับต่ออายุใบขับขี่มีดังนี้

1. เข้าสู่เว็บไซต์อบรมใบขับขี่ออนไลน์ www.dlt-elearning.com

เพื่อลงทะเบียนอบรมใบขับขี่ด้วยเลขบัตรประจำตัวประชาชน เเละวันเดือนปีเกิด ถ้าหากใครเคยลงทะเบียนอยู่เเล้วสามารถเข้าสู่ระบบได้เลย

2. เข้าสู่ระบบอบรมใบอนุญาตขับรถ

เข้าสู่ระบบด้วยเลขบัตรประชาชนเเละวันเกิดที่ได้ลงทะเบียนไปยกตัวอย่างเช่นเกิดวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 ก็ต้องใส่เลข 14022567 เป็นต้น

3. เลือกเมนูอบรมต่ออายุใบอนุญาตรถส่วนบุคคล

ในหลักสูตรอมรมใบอนุญาตขับขี่ออนไลน์ ท่านสามารถเลือกเมนูต่ออายุตามเงื่อนไขของเเต่ละบุคคล โดยมี ต่ออายุใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคล ระยะเวลาอบรม 1 ชั่วโมง เเละต่ออายุใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลขาดต่ออายุเกิน 1 ปี ระยะเวลาอบรม 2 ชั่วโมง

4. เริ่มต้นอบรมใบขับขี่ออนไลน์

เข้าไปในหลักสูตรที่สมัครอบรมไว้จากนั้นกด ดำเนินการต่อ เพื่อเริ่มอบรมใบขับขี่ออนไลน์

5. ทำเเบบทดสอบก่อนอบรมใบขับขี่ออนไลน์

ก่อนเข้ารับการอบรม ผู้เข้ารับการอบรมต้องทำเเบบทดสอบทั้งหมด 3 ข้อเพื่อเป็นการวัดความรู้พื้นฐานก่อนอบรม เเต่ไม่ต้องกังวลไปเนื่องจากในขั้นตอนนี้การตอบผิดหรือถูกไม่มีผลต่อผลการอบรม

6. ดูวิดีโอเเละฟังการอบรมให้จบคลิป

วิดิโอไม่สามารถกดข้ามหรือปิดหน้าต่างได้เนื่องจากเมื่อวิดีโอจบลงผู้เข้ารับการอบรมจะต้องทำเเบบทดสอบให้ถูกต้องเพื่อจบขั้นตอนการอบรมใบขับขี่ออนไลน์ ถ้าหากตอบผิด ท่านต้องเริ่มอบรมใหม่อีกครั้งจนกว่าจะผ่านเเบบทดสอบ

7. บันทึกหลักฐานการอบรมใบขับขี่ออนไลน์

ในระบบจะเเสดง QR Code ที่สามารถกดบันทึกได้หรือสามารถเเคปหน้าจอเพื่อนำไปเเสดงต่อเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งได้ ผลการอบรมมีอายุ 6 เดือนนับจากวันที่ผ่านการอบรม

ค่าธรรมเนียมในการสอบใบขับขี่รถยนต์เเละต่ออายุใบขับขี่

  • ค่าบริการใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว อยู่ที่ 205 บาท (แบ่งเป็นค่าคำขอ 5 บาท เเละใบอนุญาตขับรถยนต์บุคคล 200 บาท)
  • ค่าบริการต่ออายุใบขับขี่รถยนต์ชั่วคราว 2 ปี เป็นใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล 5 ปี หรือต่ออายุใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลทุกๆ 5 ปี จะมีค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 505 บาท (แบ่งเป็นค่าคำขอ 5 บาท เเละใบอนุญาตขับรถยนต์บุคคล 500 บาท)

บริดจสโตนร่วมกับกรมการขนส่งทางบก เตรียมจัดอบรมและให้คำแนะนำเรื่องกฎการขับขี่ ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ ในวันเสาร์-อาทิตย์ เป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับเทคนิคการขับขี่ในสถานการณ์ที่แตกต่างกัน รวมถึงมารยาทในการขับขี่บนท้องถนน เพื่อสร้างผู้ขับขี่รถยนต์ที่มีคุณภาพและขับขี่ได้อย่างปลอดภัย 

โดยการจัดอบรมจากบริดจสโตนในปี 2567 นี้ จะมีทั้งหมด 3 ครั้งด้วยกัน ท่านใดที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารการอบรมได้ทางเว็บไซต์ Bridgestone หรือ Facebook page : Bridgestone Thailand