การเลือกใช้ยางที่ถูกต้องมีความสำคัญต่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยโดยรวมของรถยนต์คุณ การเลือกยางควรเป็นไปตามเงื่อนไขการใช้งานและความชอบในการตอบสนองรวมทั้งการควบคุมในการขับขี่ ควรรู้ว่าขนาดยางประเภทไหนที่เหมาะสมสำหรับรถยนต์ของคุณจะได้เลือกได้อย่างเหมาะสมในเวลาที่ต้องการซื้อยางรถยนต์
ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจเลือกยางที่เหมาะสมหาได้โดยง่ายทันทีจากคู่มือประจำรถ หรือบางแห่งที่ระบุในรถยนต์ของคุณ ถ้าคุณรู้ว่าขนาดที่เหมาะสมกับรถของคุณคือขนาดไหน และต้องการเลือกรุ่นยางรถยนต์บริดจสโตนสำหรับรถของคุณ ตรวจสอบที่ แคตตาล็อคยางรถยนต์
การตรวจสอบขนาดยางว่าเหมาะสมหรือไม่ นอกจากจะดู ความกว้างหน้ายาง เส้นผ่าศูนย์กลางของยางแล้ว สิ่งที่ต้องคำนึงถึงอีก คือ ดัชนีการรับน้ำหนัก และขีดจำกัดความเร็วของยางก็เป็นส่วนสำคัญในการเลือกยางที่เหมาะสมเช่นกัน
เราจะหาขนาดยางได้ที่ไหน
ไม่ว่าคุณจะขับรถอะไร ในการหาข้อมูลยางที่แนะนำโดยผู้ผลิตนั้นง่ายที่สุด โดยคุณสามารถหาได้จากคู่มือประจำรถ
ไม่ต้องกังวลถ้าหากคุณไม่มีคู่มือประจำรถ คุณสามารถหาได้จากที่อื่น ดังต่อไปนี้
- บานประตูด้านข้างคนขับ
- ช่องเก็บของด้านหน้า
- บริเวณฝาถังเติมน้ำมัน
สมมุติว่ายางปัจจุบันที่คุณติดตั้งอยู่เหมาะสมแล้ว คุณสามารถหาข้อมูลขนาดยางจากแก้มยาง ไม่ว่าคุณจะหาขนาดยางของคุณจากที่ไหนก็ตาม คุณต้องเข้าใจรหัสตัวอักษรและตัวเลขของยางรถยนต์เช่นกัน
การอ่านรหัสขนาดยางรถยนต์
เรามาดูกันว่ารหัสตัวเลขหรือตัวอักษรแต่ละตัวหมายความว่าอะไร ยกตัวอย่างเช่น: 225/70/R16 91S
ข้อมูลบนแก้มยาง ตัวอักษร "P" และ "LT"
สำหรับรถยนต์ส่วนใหญ่คุณจะเห็นตัวอักษร P ก่อนที่จะตามด้วยตัวเลข เช่น P225/70R16 91S ตัวอักษร P ได้ถูกกำหนดโดย สมาคมยางและกะทะล้อ (the Tyre and Rim Association) ซึ่งกำหนดสำหรับยางรถยนต์นั่ง เป็นสัญลักษณ์ว่ายางประเภทนี้ถูกออกแบบสำหรับใช้กับยางรถยนต์นั่ง รวมถึงรถตู้ขนาดเล็ก รถเอนกประสงค์ และรถปิคอัพ และหากคุณเห็นอักษร LT แทนอักษร P หมายถึง สัญลักษณ์นี้ถูกออกแบบสำหรับใช้กับยางรถปิคอัพ นอกจากนี้ ตัวอักษร LT-metric สมาคมยางและกะทะล้อ (the Tyre and Rim Association) กำหนดว่า หมายถึง สัญลักษณ์นี้ถูกออกแบบสำหรับใช้กับยางรถบรรทุกหนักและรถพ่วง
ในทำนองเดียวกันตัวอักษร T ย่อมาจากคำว่า "Temporary (ชั่วคราว)" อันหมายถึงยางอะไหล่ของคุณ หากคุณเห็นคำว่า ST หมายถึง ยางสำหรับรถพ่วงพิเศษ
ความกว้างของยาง
ตัวเลขตัวแรกที่ปรากฎในขนาดข้อมูลยาง คือความกว้างของยาง มีหน่วยเป็นมิลลิเมตร เช่น: P225/70R16 91S
ความกว้างของยางหมายถึง ระยะที่วัดจากแก้มยางด้านหนึ่งไปสู่แก้มยางอีกด้านหนึ่ง โดยไม่รวมความสูงของตัวหนังสือ สัญลักษณ์ หรือส่วนอื่น ๆ ที่ยื่นออกจากแก้มยาง และวัดในขณะที่เติมลมยางตามมาตรฐาน (อ้างอิงมาตรฐาน UNECE R30*) ดังนั้น ยางที่ใช้สัญลักษณ์ว่า P225 หมายถึงยางที่มีความกว้างจากแก้มยางด้านหนึ่งไปสู่แก้มยางอีกด้านหนึ่งประมาณ 225 มิลลิเมตร
อัตราส่วนขนาดยาง
ตัวเลขตัวต่อไปที่คุณจะเห็นต่อจากความกว้างของยางแล้ว คือ อัตราส่วนระหว่างความสูงกับความกว้างของยาง เพื่อความสะดวกในการเรียก จึงทำให้เป็นจำนวนเต็ม โดยการคูณด้วย 100 แล้วเรียกว่า ซีรี่ส์ ถ้าอัตราส่วนของขนาดยางเท่ากับ 70 หมายความว่ายางสูงเป้น 70% ของความกว้างสำหรับยางที่มีอัตราส่วนขนาดยางต่ำ เช่น 45 ซีรีส์ โดยปกติจะมีสมรรถนะในการเกาะถนนดีกว่ายางที่มีซีรีส์สูง เช่น ซีรี่ส์ 55
โครงสร้างยางรถยนต์
หลังนั้นจากอัตราส่วนจะมีตัวอักษรที่บ่งบอกถึงประเภทของการโครงสร้างภายในที่ช่วยรักษาเสถียรภาพของยาง สัญลักษณ์ P225/70R16 91S ซึ่งคุณจะพบตัวอักษร 2 แบบที่ระบุประเภทโครงสร้าง คือ
- R – Radial (ยางเรเดียล)
- D – Diagonal or Bias Ply (ยางผ้าใบ)
โครงสร้างยางแบบเรเดียล หมายถึงยางที่มีโครงสร้างเป็นชั้นผ้าใบเส้นลวดพันอยู่รอบยางทำมุมทะแยงกับเส้นรอบวงของยาง
เส้นผ่านศูนย์กลางของล้อ
ตัวเลขต่อไปหมายถึงรหัสของเส้นผ่านศูนย์กลางของล้อ หน่วยเป็นนิ้ว เพื่อบ่งบอกถึงว่าขนาดของกะทะล้อที่สามารถใส่ประกอบยางได้ เช่น ยางขนาด P225/70/R16 91S สามารถใส่กับกะทะล้อที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 16 นิ้ว
ความสามารถในการรับน้ำหนัก
ความสามารถในการรองรับน้ำหนักที่ยางสามาถรองรับได้ หน่วยเป็นกิโลกรัม น้ำหนักบรรทุกที่ยางสามารถรองรับได้เมื่อเติมลมยางเต็มที่: P225/70/R16 91S
เราเรียกว่าดัชนีการรับน้ำหนัก ซึ่งตัวเลขไม่ได้แสดงถึงน้ำหนักกี่กิโลกรัมที่สามารถรองรับได้ แต่ตัวเลขแสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างดัชนีรับน้ำหนักกับความสามารถในการรับน้ำหนักของยางแต่ละเส้น เริ่มต้นที่ 60 ถึง 179 ตัวเลขแสดงถึงความสามารถในการรับน้ำหนักตั้งแต่ 250 ถึง 7750 กิโลกรัม
ดัชนีระบุความเร็วยาง
ตัวเลขสุดท้ายแสดงถึงดัชนีระบุความเร็วยางซึ่งระบุ P225/70/R16 91S ดัชนีการรับน้ำหนัก แสดงถึงความสามารถในการรับน้ำหนัก ดัชนีระบุความเร็วยางแสดงถึงความสามารถในการใช้ความเร็วสูงสุดที่ยางมีขีดความสามารถ โดยทดสอบภายในห้องปฏิบัติการมาตรฐาน
ยกตัวอย่างเช่น ยางที่มีดัชนีระบุความเร็วยางเท่ากับ S สามารถใช้อัตราความเร็วได้สูงสุด 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในขณะที่ยางที่มีอัตราความเร็วเท่ากับ R สามารถใช้อัตราความเร็วได้สูงสุด 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
โปรดจำไว้ว่าดัชนีระบุความเร็วยางไม่ใช่ความเร็วที่ใช้แนะนำในการเดินทาง แน่นอน คุณต้องปฏิบัติโดยขับด้วยความเร็วที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น
ยางที่มีดัชนีความเร็วสูง ย่อมมีสมรรถนะในการยึดเกาะถนนได้ดี การเปลี่ยนยางทดแทนควรใช้ยางที่มีดัชนีระบุความเร็วยางเช่นเดิมหรือสูงกว่า เพื่อรักษามาตรฐานความสามารถในการทำความเร็วของรถยนต์ หากรถของคุณใช้ยางที่มีดัชนีระบุความเร็วยางที่แตกต่างกัน คะแนนความเร็วที่ “ช้าที่สุด” จะถูกกำหนดให้เป็นดัชนีระบุความเร็วยางนั้น